วันพฤหัสบดีที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2558

มอเตอร์ไซค์แห่งอนาคต

มอเตอร์ไซค์แห่งอนาคต

img_0628
พูดถึงโลกอนาคตจริงๆแล้วมันก็มีหลายอย่างให้เราชวนคิดเหมือนกันนะว่า มันมีอะไรที่ดูทันสมัย ล้ำหน้่าไปบ้าง มีความทันสมัยและเทคโนโลยีที่สูงขึ้นอย่างไร  ก่อนจะยาวไปถึงดาวอังคาร วันนี้เราขอพูดถึงเรื่องความล้ำสมัยของ มอเตอรไซค์แห่งอนาคต กันบ้างดีกว่า
14872_full
มอเตอร์ไซค์แห่งอนาคต พูดแบบนี้แล้วหลายคนอาจจะกำลังนึกภาพตามว่า มันจะมีรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไรกันบ้าง มีสองล้อเหมือนเดิมหรือเปล่า แล้วองค์ประกอบ รูปร่างล่ะมีความทันสมัยหรือสวยเก๋แค่ไหน และที่สำคัญ มันช่วยในเรื่องของการประหยัดพลังงานด้วยหรือเปล่า
02SpeedRacer
มีการออกแบบ มอเตอร์ไซค์ แห่งโลกอนาคตไว้มากมาย  แต่พอถึงเวลาผลิตจริงกลับทำไม่ได้ก็มี  วันนี้เราก็เลยรวบรวมไอเดียร์ของการสร้าง มอเตอร์ไซค์ แห่งโลกอนาคต ในรูปแบบต่างๆ ตามจินตนาการของนักออกแบบ ซึ่งบางคันยังรออนุมัติ แต่บางคันมีการนำออกมาใช้แล้ว ซึ่งแต่ละรุ่นก็มีความแตกต่างกันไป ซึ่งแต่ละดีไซน์ที่นักออกแบบคิดออกมา มองแวบเดียวก็รู้แล้วว่า นี่คือ มอเตอร์ไซค์ แห่งโลกอนาคต ซึ่งจริงๆแล้วก็คือการพัฒนาให้ดีว่ารุ่นที่ผ่านมานั่นเอง แต่เพิ่มความทันสมัยเข้าไป เพิ่มการประหยัดพลังงานเข้าไป
08SanJilbertsHondaClubMotorbike
นอกจากรูปทรงที่ถูกออกแบบมาอย่างความทันสมัย แบบโลกอนาคต ที่ใช้วัตถุดิบในการสร้างแตกต่างจากสมัยนี้อย่างเห็นได้ชัดเจน บางคันมีการใช้แบตเตอรี่ลิเธียม ไอออนเป็นแหล่งจ่ายพลังงานสูมอเตอร์ขับเคลื่อนขนาด 600 วัตต์ บางรุ่นไม่ต้องใช้น้ำมันจึงไม่ปล่อยไอเสียที่ปนเปื้อนในอากาศให้ปอดคเรา สกปรก บางคันใช้พลังงานเซลล์เชื้อเพลิง พลังงานแห่งอนาคต บางคันก็ออกแบบมาเพื่อความสะดวก เช่นแบบพับได้  ซึ่งส่วนใหญ่ใช้ระบบ อัดอากาศและพลังงานจากไฮโดรเจน

05-1298399998
และครั้งแรกของโลก 2 ล้อที่ Ian Mcelroy ผู้ที่เคยนำเครื่องยนต์ subaru WRX มาใส่ไว้ในเฟรม 2 ล้อผุดขึ้นมา และมันน่าสนใจในไอเดียสุดแนวครั้งนี้ ความคิดใหม่สุดเจ๋ง ของ Ian นี้ นับเป็นความคิดที่สดใหม่อย่างมาก โดยเฉพาะ อย่างยิ่ง เมื่อ ขุมพลังดีเซลในยานยนต์ 2 ล้อ จะถูกขับเคลื่อนด้วยการขับขี่แบบ All-wheel Drive ครั้งแรกที่ขับผ่านนชุดโซ่ ที่ต่อไปทางล้อหน้าและล้อหลัง ในขณะที่ตัวถังถูกออกแบบให้มีความลู่ลมสูง เช่นเดียวกับ สวิงอาร์มแบบใหม่ รวมถึงการจัดวางเทอร์โบไว้ใต้เครื่องยนต์ และหม้อน้ำ และอุปกรณ์อื่นๆที่ทุกอย่างอยู่ใต้เบาะนั่งในสไตล์สปอร์ตไบค์แห่งโลกอนาคต
02-1298399997
Image
Biplane ถูกดีไซน์จากการนำเครื่องบินแบบดั้งเดิมมาเป็นต้นแบบ แล้วพัฒนามาเป็นยานยนต์ที่ล้ำสมัยแห่งอนาคต สัมผัสได้ถึงความท้าทาย เร้าใจ สง่างามด้วยแฮนด์ LED ที่ออกแบบมาให้เหมือนคันบังคับเครื่องบิน ล้อขนาดใหญ่แบบพิเศษหน้าปัดล้ำสมัยที่ติดอยู่บนตัวถัง สนุกเพลิดเพลินกับเครื่องยนต์ที่สูบฉีดทุกอณูความแรงขนาด V4 1,000 ซีซี DOHC ระบบระบายความร้อนแบบ Liquid-Cooled ระบบขับเคลื่อน CVT ที่พร้อมจะ Take Off ทะยานออกจากรันเวย์ได้ทุกเมื่อ
ยังมีมอเตอร์ไซค์ที่รอการออกแบบและรอการอนุมัติอีกมากมาย เพราะการได้อัพเดทชิ้นงานก็คือการนำไปสู่การพัฒนาของแต่ละรุ่นนั่นเอง…


24744_full
images (1)
390938
04YamahaGen-Ryu 03BMWIMME1200
 420
723661-topic-ix-1
05DodgeTomahawk
06XOMoveMotorbike1
06XOMoveMotorbike2
08SanJilbertsHondaClubMotorbike
picture2011-14102554165323
02SpeedRacer
01Hyanide
images
มอไซค์เบิร์กแมน
05DodgeTomahawk10I-Care1

ดีไซน์รถในอนาคตปี 2025 จากHonda

ดีไซน์รถในอนาคตปี 2025 จากHonda






มันคือรูปวาดรถต้นแบบที่ฮอนด้าคิดจะพัฒนาให้เป็นจริงภายในปี 2025 (อีก 16 ปีข้างหน้าโน่น) มีทั้งระบบโซนาร์และระบบตรวจจับสภาพแวดล้อมแล้วปรับการวิ่งให้เข้ากันได้ อีกทั้งยังสามารถเปลี่ยนเป็นเรือ หรือเปลี่ยนเป็นเครื่องบินก็ยังได้!!!

รถบินได้

รถบินได้



          ใครที่เคยใฝ่ฝันว่าอยากมีรถบินได้เพื่อหนีรถติด ดูท่าว่าความฝันใกล้จะเป็นจริงแล้ว เมื่อบริษัทเทอร์ราฟูเจีย ผู้ผลิตรถบินได้ ได้ทดลองและพัฒนาพาหนะสุดล้ำยุคที่วิ่งได้ทั้งบนถนนและบินบนอากาศ ออกจำหน่ายจริงแล้ว

          โดยพาหนะที่ว่านี้ เรียกว่า Transition Roadable Aircraft หรือเครื่องบินที่ใช้วิ่งบนถนนได้ หรือจะเรียกว่ารถบินได้ก็ไม่ว่ากัน ซึ่งลักษณะของเครื่องบินนี้จะมีความพิเศษแตกต่างจากเครื่องบินทั่วไป คือสามารถพับเก็บปีกได้ เพื่อรองรับกับการวิ่งบนถนนที่มีพื้นที่จำกัด ที่สำคัญเมื่อกดปุ่มพับเก็บปีกเครื่องบินแล้ว เครื่องบินลำนี้ก็จะมีขนาดเล็กกะทัดรัดพอ ๆ กับรถมินิ แต่แตกต่างตรงที่จะมีปีกเก้งก้าง และหางที่ด้านหลังดูเกะกะบ้างเท่านั้นเอง



   สำหรับคุณสมบัติทั่วไปของเครื่องบินลำนี้ คือ เป็นเครื่องบิน 2 ที่นั่ง ปีกกาง 8 เมตร แต่หากพับเก็บปีกแล้วความกว้างของรถจะเหลือประมาณ 2.3 เมตร สามารถรับน้ำหนักได้มากสุดประมาณ 650 กิโลกรัม วิ่งด้วยความเร็วบนอากาศสูงสุด 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สามารถบินได้ไกลเที่ยวละประมาณ 787 กิโลเมตร ส่วนความเร็วบนถนนสูงสุด 105 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

           อย่างไรก็ดี แม้ว่าจะมีการผลิตและจำหน่ายเครื่องบินประเภทนี้ออกมาใช้งานกันจริงจังแล้ว แต่ก็ยังไม่อนุญาตให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานทางอากาศ หรือหน่วยฉุกเฉิน หรือบุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาต ซื้อไปไว้ในครอบครอง แต่ก็ไม่แน่ว่าหลังจากที่เครื่องบินลำนี้นำมาใช้ได้ดีในหน่วยงานเฉพาะกิจแล้ว ก็อาจจะนำมาใช้งานเป็นพาหนะส่วนตัวในอนาคตอันใกล้นี้ก็เป็นได้ ส่วนราคานั้นก็ถือว่าสมเหตุสมผล คือ ประมาณ 7.5 ล้านบาท ถูกกว่ารถยนต์ที่บินไม่ได้บางเจ้าเสียอีกแน่ะ

           เอ้า งานนี้ก็ต้องมาลุ้นกันต่อไปว่า เครื่องบินวิ่งบนถนนได้ หรือเจ้ารถบินได้คันนี้ จะถูกนำมาใช้จริงเมื่อไหร่

Honda Concept Car รถต้นแบบพลังไฟฟ้า

Honda Concept Car รถต้นแบบพลังไฟฟ้า



ใกล้เข้ามาแล้ว สำหรับงาน "โตเกียว มอเตอร์โชว์ 2011" (Tokyo Motor Show 2011) ครั้งที่ 42 ซึ่งจะจัดขึ้นที่โตเกียว บิ๊กไซต์ (Tokyo Big Sight) ประเทศญี่ปุ่น ในระหว่างวันที่ 3 - 11 ธันวาคมที่จะถึงนี้ โดยไฮไลท์หลัก ๆ ก็คือการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ ๆ ของค่ายต่าง ๆ ที่เตรียมพารถรุ่นใหม่ ๆ มาให้ผู้ที่ชื่นชอบในเรื่องของยานยนต์ได้สัมผัสกันอย่างใกล้ชิด




 แต่ไม่ว่าค่ายรถยนต์ไหนจะมีรถรุ่นใหม่ ๆ ที่จ่อเปิดตัวกันยังไง ก็คงไม่เป็นที่สนใจเท่า "ฮอนด้า" (Honda) แน่นอน เพราะว่าบริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด ได้ประกาศอย่างชัดเจนเลยว่า ในงานนี้พวกเขาพร้อมแล้วที่จะเปิดตัวรถต้นแบบที่ใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นหลักที เดียวถึง 7 รุ่นรวด ทั้งในส่วนของรถยนต์และรถมอเตอร์ไซค์

โดยทางฮอนด้าออกคอนเซ็ปต์มาอย่างชัดเจนเลยว่า ในงานนี้ฮอนด้าจะนำเสนอชีวิตแห่งความเคลื่อนไหวที่น่าตื่นเต้นของโลกอนาคต ภายใต้แนวคิด "What makes people feel good?" (อะไรที่ทำให้คนเรารู้สึกดี?) ซึ่งจะเป็นการสะท้อนวิสัยทัศน์ในฐานะผู้ผลิตนวัตกรรมแห่งการเคลื่อนที่ส่วน ตัวให้แก่ผู้คนทั่วโลก โดยจะใช้ทั้งพลังงานไฟฟ้าและพลังงานธรรมชาติอย่างพลังงานแสงอาทิตย์ มาเป็นจุดเด่นหลัก ๆ ในการพัฒนาและสร้างรถรุ่นใหม่ ๆ ของฮอนด้าต่อไปในอนาคต

ด้วยเหตุนี้เอง ฮอนด้าจึงได้คิดรถต้นแบบที่ใช้ระบบไฟฟ้าต่าง ๆ มาถึง 7 คันเน้น ๆ ซึ่งแต่ละรุ่นแต่ละแบบนั้น ต้องบอกเลยว่าเป็นคอนเซ็ปต์คาร์ที่น่าสนใจมาก ๆ ฉะนั้นแล้วเราลองไปดูกันดีกว่าว่า ทั้ง 7 รุ่นที่ว่านั้น จะมีอะไรบ้างและจะน่าสนใจเหมือนที่ฮอนด้าได้ตั้งคอนเซ็ปต์เอาไว้หรือเปล่า ตามมาดูกันเลย



AC-X

เริ่มกันที่รถยนต์ไฮบริดแบบ "ปลั๊ก-อิน" (Plug-in) แห่งอนาคต ที่จะตอบโจทย์ด้านความสนุกสนานและความสะดวกสบายที่มากขึ้นในทุกสภาพการขับ ขี่ ทั้งในเมืองและการเดินทางระยะไกล AC-X มาพร้อมกับ 2 โหมดการขับขี่เด่น ๆ ทั้ง "โหมดการขับด้วยเครื่องยนต์" เพื่อการขับขี่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และ "โหมดการขับแบบอัตโนมัติ" เพื่อให้คนขับสามารถผ่อนคลายกับการเดินทางได้ โดยที่ไม่ต้องกังวลในเรื่องการขับขี่อีกต่อ ซึ่งจะเหมาะมาก ๆ สำหรับผู้ที่ต้องเดินทางไกลหรือต้องใช้เวลาอยู่ในรถเป็นเวลานาน ๆ




MICRO COMMUTER CONCEPT

รถคันนี้จะเป็นรถพลังงานไฟฟ้าขนาดกะทัดรัด กับรูปทรงภายนอกที่แหวกแนว ล้ำสมัย แถมผู้ที่เป็นเจ้าของยังสามารถเพิ่มหรือตกแต่งรถได้ตามที่ต้องการอีกด้วย ซึ่งจะเน้นใช้งานในเมืองเป็นหลัก และด้วยการร่วมมือระหว่างศูนย์วิจัยและพัฒนารถยนต์และรถจักรยานยนต์ฮอนด้า ช่วยให้รถรุ่นนี้สามารถบรรทุกรถมอเตอร์ไซค์ "MOTOR COMPO " ได้อย่างสบาย ๆ เลยทีเดียว



SMALL SPORTS EV CONCEPT
 นี่จะเป็นรถสปอร์ตแบบระบบ EV ที่จะให้ความสนุกแก่การขับขี่อย่างที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน ทั้งความสะดวกสบายและเรื่องของอัตราเร่งความเร็วต่าง ๆ อีกทั้ง ยังเป็นรถที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย



MOTOR COMPO

รถ มอเตอร์ไซค์แบบระบบ EV คันนี้มีขนาดที่เล็ก น่ารัก ๆ กำลังดี ขับขี่ง่าย สามารถบรรทุกใส่ในรถ MICRO COMMUTER CONCEPT ได้อย่างสบาย ๆ นอกจากนี้ยังสามารถถอดแบตเตอร์รี่ออกมาเพื่อเป็นแหล่งพลังงานที่ใช้ในชีวิต ประจำวันด้วย



E-CANOPY
 รถสกู้ตเตอร์แบบสามล้อนี้ พัฒนาขึ้นมาจากการระบบ EV ไปติดตั้งบนตัวรถให้เกิดเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของฮอนด้า เหมาะสำหรับใช้งานส่วนตัวและงานธุรกิจ เช่น การส่งของ โดยสามารถติดตั้งที่เก็บของเพิ่มเติมในด้านหลังของตัวรถได้



RC-E

นี่ คือรถมอเตอร์ไซค์ซูเปอร์สปอร์ตรุ่น EV ที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองการขับขี่อย่างเต็มที่ RC-E มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 250 ซีซี ซึ่งอยู่บนตัวถังที่มีการดีไซน์ให้มีขนาดกะทัดรัด นอกจากนั้นแล้วยังมีจุดเด่นตรงที่ให้สมรรถนะที่แรงและทรงพลัง แต่แฝงความนุ่มนวลในทุก ๆ ที่ขับขี่อีกด้วย


TOWNWALKER

 ปิด ท้ายกันที่ รถเล็กที่ลักษณะคล้ายกับรถกอล์ฟคันนี้ ที่มีการดีไซน์มาเพื่อใช้ในเใองโดยเฉพาะ แถมยังเหมาะสำหรับคุณพ่อบ้านแม่บ้าน ในการใช้งานเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น จ่ายตลาด หรือขนของนิด ๆ หน่อย ๆ ขณะที่อีกหนึ่งจุดเด่นของ TOWNWALKER ก็คือสามารถบรรทุกใส่ในรถยนต์ได้ง่าย ๆ เพียงแค่พับแผงคันบังคับที่อยู่ด้านหน้าและส่วนของที่นั่งเข้าหากันแค่นั้น เอง


ทั้งนี้ทั้งนั้น ทั้ง 7 รุ่นของฮอนด้าที่เตรียมจะเปิดตัวพร้อม ๆ กันในงานโตเกียว มอเตอร์โชว์ 2011 นี้ ยังคงเป็นเพียงรถต้นแบบเท่านั้น ยังไม่มีการผลิตออกมาในเชิงพาณิชย์อย่างทางการแต่อย่างใด แต่ที่แน่ ๆ คือเราได้เห็นแล้วว่า ทิศทางด้านยานยนต์ในอนาคตข้างหน้า ดูแล้วจะมีแต่การใช้พลังงานไฟฟ้าทดแทนพลังงานน้ำมันที่รอวันหมดจะโลกอย่าง เป็นทางการแน่นอน..

รถดำน้ำคันแรกของโลก



รถดำน้ำคันแรกของโลก!!  ยานยนต์ต้นแบบแห่งอนาคต


เรื่องรถสะเทินน้ำสะเทินบกยังไม่จบลงง่ายๆ หลังจากคราวก่อน ได้พาไปรู้จักกับเจ้า 'Watercar Python'  (http://www.thairath.co.th/content/life/300053) โลกต้องตระหนักถึงภัยจากน้ำมากขึ้น เหตุจากขั้วโลกพื้นที่แห่งน้ำแข็ง ที่ตอนนี้อ่อนปวกเปียกละลายเป็นน้ำจำนวนมหาศาล ที่อาจกลืนผืนดินได้ค่อนโลกในอนาคต

มนุษย์สิ่งมีชีวิตชนิดเดียวในโลก ที่คิดจะเอาชนะธรรมชาติ อาจถึงคราวต้องยอมเปลี่ยนแปลงเพื่ออยู่กับธรรมชาติก็คราวนี้ เห็นได้จากน้ำท่วมครั้งใหญ่ที่ผ่านมา ซึ่งมันไม่ได้เกิดเฉพาะในเมืองไทยเท่านั้น และสิ่งหนึ่งที่เห็นกันก็คือ ไม่มีมนุษย์หน้าไหนเอาชนะธรรมชาติได้จริงๆ !!
'Rinspeed sQuba' คือ ยนตกรรมที่เกิดจากความพยายามของคนที่จะอยู่กับธรรมชาติให้ได้ในทุกที่ไม่ว่า จะบนบกหรือในน้ำ มันทำให้นึกถึงยานพานะชนิดนึงที่ร่วมแสดงในภาพยนตร์ เรื่อง 'The Spy Who Loved Me' เมื่อราว 35 ปีก่อน รถสปอร์ตคันหรูที่สามารถดำน้ำได้ มันเป็นสิ่งเหลือเชื่ออย่างมาก
'sQuba' คือรถยนต์ดำน้ำที่เหมือนหลุดมาจากภาพยนตร์ มันคือรถต้นแบบแห่งอนาคต สร้างขึ้นบนพื้นฐานของ 'Lotus Elise' สิ่งที่ท้าทายคือ การที่ต้องออกแบบให้มันสามารถเคลื่อนไหวด้วยลักษณะเดียวกับปลาในน้ำ

ผล งานการดัดแปลงเป็นของ Esoro วิศวกรชาวสวิส เริ่มต้นด้วยการโยนเครื่องยนต์แบบสันดาปทิ้งไป และแทนที่ใหม่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัวด้วยกัน ในการขับบนบกจะได้กำลังจากมอเตอร์ตัวเดียว ส่วนแรงขับดันในน้ำจะเกิดจากมอเตอร์ 2 ตัวด้านหลัง การออกแบบเลือกใช้วัสดุน้ำหนักเบา ความทนทานสูง อย่างนาโนคาร์บอน เป็นหลัก
ถังออกซิเจนชนิดพิเศษ ถูกติดตั้งเข้าไปเพื่อใช้สำหรับการหายใจของผู้ขับขี่ มีคนตั้งข้อสงสัยไม่น้อยว่าทำไมรถดำน้ำถึงได้ไม่มีหลังคา ซึ่งผู้ออกแบบให้เหตุผลด้านความปลอดภัย ยามเกิดเหตุไม่คาดฝันผู้โดยสารสามารถผละออกจากตัวรถได้ทันที

'sQuba' ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ทำให้การปล่อยมลภาวะมายังโลกเป็นศูนย์ รวมถึงระบบไฟต่างๆ ก็เลือกใช้เทคโนโลยีระบบ LED ทั้งหมด เพื่อการใช้พลังงานให้คุ้มค่าที่สุด
ชิ้นส่วนทุกชิ้นของ 'sQuba' ทนทานต่อการกัดกร่อนของเกลือ หน้าปัดสามารถใช้งานได้ทุกส่วนยามอยู่ใต้ผิวน้ำ ยางตามสเปกเลือกใช้ของ Pirelli ล้อแม็กซ์ขนาด 17-18 นิ้วของ AEZ

ความเร็วสูงสุดบนบกของ 'sQuba' คันนี้ วิ่งได้ราว 120 กม./ชม. หากแล่นเหนือผิวน้ำจะทำความเร็วได้ประมาณ 7 กม./ชม. แต่เมื่อมันดำน้ำจะทำความเร็วได้เพียง 4 กม./ชม. เท่านั้น

อย่างไรก็ ดี นับตั้งแต่ 'sQuba' เปิดโชว์ตัวในงาน 'Geneva Motor Show' เมื่อ 4 ปีก่อน และทุกวันนี้มันยังถูกฝังไว้ในหมวดรถต้นแบบ ที่ยังไม่มีการผลิตออกจำหน่ายอย่างจริงจัง แต่ก็เชื่อว่าโลกในอนาคต คงมีสิทธิ์ได้เรียกใช้บริการของมันแน่ๆ...